สำหรับแฟน ๆ Ghibli ที่มาญี่ปุ่น แน่อนว่าต้องไม่พลาด Ghibli Park ที่รวบรวมทุกผลงานคลาสสิกอื่นของสตูดิโอจิบลิเอาไว้! ในบทความนี้ "JapaiJAPAN" จะพาทุกคนไปสำรวจโซนต่างๆ พร้อมทั้งรวบรวมทุกข้อมูลที่จำเป็นตั้งแต่วิธีซื้อบัตรเข้าชม คำแนะนำในการเดินทาง ร้านอาหารยอดนิยม ของที่ระลึกแนะนำ ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับโลกอนิเมะได้อย่างเต็มที่ มีอะไรบ้างมาดูเลย

ภาพจาก 由左到右/ aoi、©Studio Ghibli 愛知県、aoi
กิจกรรมพิเศษ ①:เปิดให้บริการช่วงกลางคืนครั้งจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้
Ghibli Park เตรียมเปิดให้บริการยามค่ำครั้งแรก 3 เสาร์ติดในเดือนสิงหาคม 2025 (2, 9, 16 ส.ค.) โดยขยายเวลาถึง 20:00 น. ใน 3 โซนหลัก ได้แก่ Ghibli's Grand Warehouse, Magic Village และ Witch Valley เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสบรรยากาศสวนจิบลิยามค่ำคืน ส่วน โซน Dondoko Forest และ Youth Hill ยังคงเปิดถึง 17:00 น. ตามปกติ

โซนป่าด้งโดโกะ เปิดตัวเกมตักซูเปอร์บอลธีม "โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย" (Ponyo)
ภาพจาก 株式会社ジブリパーク、© Studio Ghibli
กิจกรรมพิเศษ ②:ตักซูเปอร์บอลธีม "โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย" (Ponyo)
ช่วงฤดูร้อน 19 ก.ค. - 31 ส.ค. 2025 เตรียมพบกิจกรรมพิเศษที่ป่าด้งโดโกะ จิบลิ พาร์ค ด้วยเกมตักลูกบอลน้ำธีม Ponyo ในสระจะมีลูกบอลลายโปะนิโยะให้ตักเล่นสนุกสไตล์เทศกาลฤดูร้อนญี่ปุ่น
สวนจิบลิอยู่ที่ไหน? แตกต่างจากพิพิธภัณฑ์จิบลิมิตาคะในโตเกียวยังไง?

ภาพจาก 公益財団法人 愛知県都市整備協会

ภาพจาก 公益財団法人 愛知県都市整備協会
สวนจิบลิ ตั้งอยู่ใน สวนอนุสรณ์เอ็กซ์โป เลิฟ เอิร์ธ เมืองนากาคุเตะ จังหวัดไอจิ พื้นที่เดิมเคยเป็นสถานที่จัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2005 ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งลานหญ้า สระน้ำ และเส้นทางปั่นจักรยาน การเดินทางสะดวก มีทั้ง รถบัสจากสนามบินชูบุ (55 นาที) และ รถไฟจากสถานีนาโกย่า (47 นาที)

ภาพจาก ジブリパーク
สวนสนุกจิบลิแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่ Ghibli's Grand Warehouse, Dondoko Forest, Youth Hill, Magic Village และ Witch Valley สร้างขึ้นตามโลกแห่งจินตนาการจากผลงานอนิเมะชื่อดังอย่าง "ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์" "โทโทโร่เพื่อนรัก" และ "แม่มดน้อยกิกิ" ส่วนพิพิธภัณฑ์จิบลิมิตาคะในโตเกียว จัดแสดงผลงานศิลปะและเบื้องหลังการสร้างอนิเมะผ่านภาพวิดีโอและนิทรรศการพิเศษ
ราคาและประเภทตั๋วเข้าชมสวนจิบลิ
สวนจิบลิมีระบบ จองตั๋วล่วงหน้าเท่านั้น แบ่งเป็นตั๋วถาวร 6 ประเภท ได้แก่ ตั๋วเดินเที่ยวทั่วสวน (Premium และ Standard), ตั๋วหมู่บ้านเวทมนตร์และหุบเขาแม่มด, ตั๋วคลังใหญ่จิบลิ, ตั๋วเนินเขาแห่งวัยเยาว์ และตั๋วป่าด้งโดโกะ นอกจากนี้ยังมีตั๋วพิเศษตามเทศกาล เช่น นิทรรศการโทชิโอะ ซูซูกิ ผู้สร้างสรรค์อนิเมชั่นชื่อดังของสตูดิโอจิบลิ ในช่วงฤดูร้อน
ชื่อตั๋ว | ราคา | รายละเอียด | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
Ghibli Park O-Sanpo Day Pass Premium | 【วันธรรมดา】ผู้ใหญ่ 7,300 เยน | เด็ก 4-12ปี 3,650 เยน 【เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์】ผู้ใหญ่ 7,800 เยน | เด็ก 4-12ปี 3,900 เยน |
สิทธิประโยชน์ เข้าออกได้ไม่จำกัดในทุกโซนของสวนจิบลิตลอดวันที่กำหนด *ยกเว้น* Ghibli's Grand Warehouse ที่เข้าได้เพียงครั้งเดียวตามเวลาที่กำหนด |
※ ต้องเลือกเวลาเข้า Ghibli's Grand Warehouse ตอนซื้อตั๋ว (มี 7 รอบ ได้แก่ 09:00|10:00|11:00|12:00|13:00|14:00|15:00) ※ รอบ 09:00 มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ※ หากสภาพอากาศไม่ดี เครื่องเล่นบางอย่างใน "หมู่บ้านเวทมนตร์" และ "หุบเขาแม่มด" อาจปิดให้บริการ |
Ghibli Park O-Sanpo Day Pass Standard | 【วันธรรมดา】ผู้ใหญ่ 3,300 เยน | เด็ก 4-12ปี 1,650 เยน 【เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์】ผู้ใหญ่ 3,800 เยน | เด็ก 4-12ปี 1,900 เยน |
สิทธิประโยชน์ เข้าออกได้ไม่จำกัดในทุกโซนของสวนจิบลิตลอดวันที่กำหนด *ยกเว้น* Ghibli's Grand Warehouse ที่เข้าได้เพียงครั้งเดียวตามเวลาที่กำหนด |
สามารถเข้าชม 3 โซนหลัก: Ghibli's Grand Warehouse, Magic Village และ Witch Valley ตามวันที่ระบุในบัตร สำหรับพื้นที่พิเศษอย่างบ้านโออิจิโนะ ปราสาทฮาวล์ และบ้านแม่มด ต้องซื้อบัตรเพิ่มที่ Witch Valley (จำนวนจำกัด) ※สำคัญ:เลือกเวลาเข้า Ghibli's Grand Warehouse ล่วงหน้า (7 รอบ 09:00-15:00) รอบ 09:00 มีเฉพาะวันหยุด กรณีสภาพอากาศไม่ดี บางเครื่องเล่นอาจปิดให้บริการ |
บัตรพิเศษโซน Magic Village และ Witch Valley | ผู้ใหญ่ 2,000 เยน | เด็ก 4-12ปี 1,000 เยน | บัตรนี้ใช้เข้าชม Magic Village และ Witch Valley ได้ตามวันที่ระบุ สำหรับโซนพิเศษอย่างบ้านโออิจิโนะ ปราสาทฮาวล์ และบ้านแม่มด ต้องซื้อบัตรเพิ่มที่ Witch Valley (จำนวนจำกัด) | เวลาเข้าชม : โซน Witch Valley แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้า (เวลาเปิด-13:00 น.) และรอบบ่าย (13:00-16:30 น.) ต้องเข้าตามเวลาที่กำหนดไว้ |
บัตรพิเศษโซน Ghibli's Grand Warehouse | ผู้ใหญ่ 2,000 เยน | เด็ก 4-12ปี 1,000 เยน | บัตรประเภทนี้สามารถเข้าชมได้ในโซน Ghibli's Grand Warehouse ตามวันที่กำหนด | หมายเหตุ : NekoBus Room และ Kodomonomachi สงวนสิทธิ์ให้เฉพาะเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีเท่านั้น ※ Ghibli's Grand Warehouse แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้า (เวลาเปิด-13:00 น.) และรอบบ่าย (13:00-16:30 น.) ต้องเข้าตามเวลาที่กำหนดไว้ |
บัตรพิเศษโซน Youth Hill | ผู้ใหญ่ 1,000 เยน | เด็ก 4-12ปี 500 เยน | สามารถเข้าชมโซน Youth Hill ตามวันที่กำหนด | แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้า (เวลาเปิด-13:00 น.) และรอบบ่าย (13:00-16:30 น.) ต้องเข้าตามเวลาที่กำหนดไว้ |
บัตรพิเศษโซน Dondoko Forest | ผู้ใหญ่ 1,000 เยน | เด็ก 4-12ปี 500 เยน | สามารถเข้าชมโซน Dondoko Forest ตามวันที่กำหนด | แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้า (เวลาเปิด-13:00 น.) และรอบบ่าย (13:00-16:30 น.) ต้องเข้าตามเวลาที่กำหนดไว้ |
※ เวลาเปิดทำการ : 【วันธรรมดา】10:00~17:00 น.【เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์】09:00~17:00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
※ ตั๋วเริ่มจำหน่ายล่วงหน้า 2 เดือนก่อนวันเข้าชม โดยเปิดขายในวันที่ 10 ของเดือน เวลา 14:00 น.
แนะนำทั้ง 5 โซนของสวนสนุกจิบลิ
Ghibli Park มีขนาดใหญ่กว่าโตเกียวดิสนีย์แลนด์และยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอญี่ปุ่น 4 เท่า แบ่งเป็น 5 โซนหลัก: Ghibli's Grand Warehouse, Dondoko Forest, Youth Hill, Magic Village และ Witch Valley พร้อมคาเฟ่และร้านของที่ระลึกมากมาย มาดูไฮไลต์แต่ละโซนกันดีกว่า!

Ghibli Park
ภาพจาก ジブリパーク
โซนที่ ① จิบลิแวร์ เฮ้าส์ (Ghibli's Grand Warehouse)

ภาพจาก ジブリパーク
จิบลิ แกรนด์ แวร์เฮาส์ (Ghibli's Grand Warehouse) เป็นที่ที่รวบรวมไฮไลต์สำคัญของสตูดิโอจิบลิไว้ในพื้นที่เดียว ทั้งนิทรรศการภาพวาดต้นฉบับ ฉากจำลองแอนิเมชันพร้อมแสงสีเสียง และโมเดลขนาดจริงให้ถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีร้าน "ทีมผจญภัยการบิน" จำหน่ายของที่ระลึกสุดพิเศษ รวมถึงหมวกวิกผมยูบาบาที่กำลังเป็นที่นิยมในโซเชียล
จุดเด่น ①:บันไดกลาง
บันไดกลาง เป็นจุดถ่ายรูปไฮไลต์ที่เชื่อมชั้น 1-2 โดดเด่นด้วยกระเบื้องเซโตะ 144 สีกว่า 200,000 ชิ้น พร้อมเรือยักษ์ลอยฟ้ายาว 7 เมตรที่หมุนใบพัดช้าๆ ในลวดลายกระเบื้องยังซ่อนตัวละครจิบลิอันโด่งดังอย่าง วิญญาณเขม่าและโตโตโร่ เอาไว้อีกด้วย
จุดเด่น ②:ถ่ายภาพกับ ผีไร้หน้าจาก《Spirited Away》(ジブリのなりきり名場面展)
เมื่อเข้ามาในโซน จิบลิแวร์เฮาส์ จุดที่ห้ามพลาดจุดแรกเลยคือ นิทรรศการฉากโด่งดังจากภาพยนตร์จิบลิ ที่จัดแสดงฉากสำคัญจาก 13 เรื่องดัง อาทิ Spirited Away, Princess Mononoke และ Ponyo ทุกฉากถูกสร้างอย่างมีชีวิตชีวา ให้คุณได้ถ่ายภาพเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์
สัมผัสฉากเด่นๆ จากภาพยนตร์จิบลิหลากหลายเรื่อง ทั้ง การนั่งรถไฟกับผีไร้หน้าใน Spirited Away, บินร่อนไปกับนาวสิกาบนเครื่องบินจำลอง, ชมแสงสีฟ้าสวยงามในฉากเทพเจ้าป่าจาก Princess Mononoke และร่วมผจญภัยกับปาสุในฉาก Castle in the Sky ทุกฉากถูกจำลองพร้อมเอฟเฟกต์แสงสีเสียงสมจริง
จุดเด่น ③:จิตรกรรมอาหาร (食べるを描く。) ฉบับปรับปรุงใหม่ & นิทรรศการจิบลิอิ่มท้อง (ジブリがいっぱい展)
เมื่อเข้าสู่ "ห้องจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ" จะพบ 2 ไฮไลต์หลัก - "จิตรกรรมอาหารฉบับปรับปรุงใหม่" และ "นิทรรศการจิบลิอิ่มท้อง" พร้อมจุดถ่ายภาพยอดนิยมอย่างโทโทโร่ข้างบาร์และรถบัสแมวที่ดึงดูดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (เนื่องจากเนื้อหาการจัดแสดงอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำตรวจสอบข้อมูลนิทรรศการล่าสุดที่เว็บไซต์ทางการ)
จุดเด่น ④:ชมห้องทำงานของยูบาบาใน《Spirited Away/にせの館長室》
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือ ห้องทำงานของยูบาบา จากเรื่อง Spirited Away ที่โดดเด่นด้วยตัวอักษร「油」ขนาดใหญ่ที่ด้านนอก ภายในจำลองฉากโรงอาบน้ำอันโด่งดัง พร้อมรายละเอียดครบครัน ทั้งยูบาบา ผีหัวเขียว ใบสัญญา และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แม้ต้องรอคิวถ่ายรูป แต่รับรองว่าแฟนภาพยนตร์จะประทับใจ
จุดเด่น ⑤:หุ่นยนต์ยักษ์จาก《Castle in the Sky/天空之庭》
หุ่นยนต์ยักษ์จากเรื่อง Castle in the Sky ที่เคยจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์จิบลิมิตากะ ถูกจำลองมาไว้ที่นี่อย่างสมจริง ทั้งเกราะเหล็กเป็นสนิม รากไม้เลื้อย และมอสส์ที่เกาะอยู่รอบตัว เป็นจุดถ่ายรูปที่แฟนภาพยนตร์จิบลิไม่ควรพลาด
จุดเด่น ⑥:เข้าสู่โลกจิ๋วของ《The Borrower Arrietty/床下の家と小人の庭》
อยากลองเป็น อาร์เรียตี้ ตัวละครตัวจิ๋วที่ท่องไปในโลกของดอกไม้และพืชพรรณขนาดยักษ์ไหม? ที่นี่เลย มีทั้งฉากโหลแก้วขนาดใหญ่ที่เด็กๆสามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองตัวเล็กลง มีฉากบ้านของอาร์เรียตี้ที่สร้างได้เหมือนต้นฉบับทุกรายละเอียด และทุกองค์ประกอบถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันจนทำให้ผู้เข้าชมต้องประทับใจอย่างแน่นอน
จุดเด่น ⑦:South Street ยุคโชวะ
South Street คือย่านชอปปิ้งที่เต็มไปด้วยบรรยากาศยุคโชวะ ที่นี่มีร้านค้าน่าสนใจมากมาย อาทิ ร้านหนังสือ ร้านโมเดล และ ร้านขนมและของชำเนโกะกาอิโทวฮิเมะ พร้อมร้านค้าน่ารักอื่นๆ อีกมากมายให้เดินเล่น
จุดเด่น ⑧:ร้านขายสินค้า Boken Hikōdan (冒険飛行団)

ภาพจาก Fashion Press
ร้าน Boken Hikōdan (冒険飛行団) เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในสวนสนุกและมีสินค้าครบครันที่สุด หมวกวิกผมแม่มดยูบาบาที่โด่งดังบนโซเชียลมีเดียก็วางขายที่นี่ นอกจากนี้ยังมีสินค้าออริจินัลมากมาย เช่น สมุดโน้ตไร้หน้า ปืนฉีดน้ำรูปนกโอโตริพร้อมผ้าเช็ดตัว พวงกุญแจเนโกะบัส และอื่นๆ อีกมากมาย แฟนจิบลิไม่ควรพลาดเด็ดขาด
โซน ② เนินเขาแห่งวัยเยาว์ (Youth Hill)

ภาพจาก ジブリパーク
เนินเขาแห่งวัยเยาว์ (Youth Hill) เป็นโซนที่รวมฉากสำคัญจากภาพยนตร์จิบลิหลายเรื่อง ทั้งสำนักงานแมวจาก "เจ้าแมวยอดนักสืบ" ร้านของเก่าจาก "วันนั้น...วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู" และ หอลิฟต์สไตล์วิทยาศาสตร์แฟนตาซีจาก "ลาพิวต้า" และ "ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์"
จุดเด่น ①:หอลิฟต์
บ้านโลก (Earth Shop) แบ่งเป็น 2 ชั้น โดยชั้น 1 เป็นโรงงานทำไวโอลินที่ซึงจิ อามาซาวะ ฝึกงาน ส่วนชั้น 2 จัดแสดงเฟอร์นิเจอร์ นาฬิกาไขลาน และของสะสมมากมาย มีระเบียงชมวิวสวน พร้อมบริการส่งไปรษณียบัตรและแสตมป์
จุดเด่น ②:สำนักงานแมว
"สำนักงานแมว" จากเรื่อง เจ้าแมวยอดนักสืบ (The Cat Returns) เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวที่สร้างตามขนาดของแมว ตั้งแต่ฐานรากอาคารไปจนถึงการประกอบไม้ทั้งหมดล้วนทำตามวิธีการก่อสร้างอาคารทั่วไป เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน จะเห็นบารอนแมวและร่างอ้วนๆ ที่กำลังผ่อนคลายท่ามกลางเฟอร์นิเจอร์และของเล็กของน้อยมากมาย
โซน ③ ป่าด้งโดโกะ (Dondoko Forest)

ภาพจาก ジブリパーク
ป่าด้งโดโกะ (Dondoko Forest) อยู่ห่างจากคลังใหญ่จิบลิ 20 นาทีเดินเท้า มีทางเลือก 2 แบบในการขึ้นเขา: นั่งรถไฟเล็กด้งโดโกะ หรือเดินขึ้นเขา 5 นาที เพื่อพบโทโทโร่ แนะนำให้แวะห้องน้ำและซื้อตั๋วที่ร้านค้าก่อนขึ้นเขา เนื่องจากด้านบนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก
จุดเด่น ①:โทโทโร่ยักษ์
โทโทโร่ยักษ์สูงประมาณ 5 เมตร มีบันไดให้ปีนขึ้นไปเล่น (สำหรับเด็กประถมศึกษาหรือเด็กเล็กกว่านั้นเท่านั้น) ข้างๆ โทโทโร่มีร้านขายของเล็กๆ จำหน่ายเครื่องรางนำโชคพิเศษและโมเดลโทโทโร่ เป็นของที่แฟนโทโทโร่ต้องไม่พลาด
จุดเด่น ②:บ้านของซัตสึกิกับเมย์
ชมบ้านของ ซัตสึกิกับเมย์ บริเวณนี้ไม่เชิงว่าเป็นฉากใหม่ที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพราะที่นี่ยังเคยเป็นพื้นที่จัดแสดงในงาน World Expo 2005 ไอจิมาแล้ว นำมาปรับปรุงและใส่รายละเอียดให้เหมือนกับบ้านของซัตสึกิกับเมย์ในเรื่องอย่างไม่มีผิดเพี้ยน รายละเอียดภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้หลายชิ้นสามารถสัมผัสและเปิดดูได้จริง ตู้เสื้อผ้าสามารถเลื่อนเปิดได้ สวนรอบบ้านมีบ่อน้ำที่สามารถตักน้ำได้จริง จำลองบรรยากาศได้เหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์เลย
โซน ④ หมู่บ้านเวทมนตร์ (Magic Village)

ภาพจาก ジブリパーク
หมู่บ้านเวทมนตร์ เป็นโซนที่สร้างโดยได้แรงบันดาลใจจากทิวทัศน์ธรรมชาติแบบญี่ปุ่นที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Princess Mononoke) ภายในมีปราสาททาทาราบะ ที่ผู้เข้าชมสามารถทดลองทำ "โมจิย่างถ่าน" รวมถึงกิจกรรมพิเศษ "บดแป้งถั่วเหลืองด้วยครกหิน (พร้อมขนมวาระบิโมจิ)" นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นสไลเดอร์ "โอโตโตะนุชิ" และงานศิลปะการจัดวาง "ทาตาริกามิ" อีกด้วย
โซน ⑤ หุบเขาแม่มด (Witch Valley)

ภาพจาก ジブリパーク
หุบเขาแม่มด (Witch Valley) ถูกออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากผลงานของสตูดิโอจิบลิที่มีแม่มดเป็นตัวละครหลัก เช่น "แม่มดน้อยกิกิ", "ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์" และ "มหัศจรรย์แม่มดอาย่า"
ที่หุบเขาแม่มดมีถนนสไตล์ยุโรปเต็มไปด้วยความลึกลับและมีมนต์เสน่ห์ เมื่อเดินเล่นไปตามถนนจะได้พบกับสถานที่คุ้นตาจากในภาพยนตร์ เช่น ร้านขนมปัง ปราสาทของฮาวล์ และบ้านของแม่มดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นธีมสตูดิโอจิบลิอย่าง "ม้าหมุน" และ "เครื่องบิน" ที่จำลองกลไกเวทมนตร์และแสดงถึงความฝันของการโบยบิน
จุดเด่น ①:บ้านของโอชิโนะ

ภาพจาก ジブリパーク

ภาพจาก ジブリパーク
"บ้านของโอชิโนะ" เป็นบ้านสองชั้นที่กิกิจาก "แม่มดน้อยกิกิ" อาศัยอยู่ ชั้นแรกมีร้านปรุงยาของแม่ ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ส่วนชั้นสองเป็นห้องนอนของกิกิและห้องทำงานของพ่อ โดยรอบบ้านมีสวนดอกไม้สวยงามตลอดทั้งปี
จุดเด่น ②:ปราสาทของฮาวล์
รอบๆ ปราสาทเป็นที่ราบร้าง มีหุ่นไล่กายืนตระหง่านอยู่ ทุกๆ ชั่วโมงปราสาทจะเคลื่อนที่และพ่นควันออกมา ราวกับเป็น "ปราสาทเคลื่อนที่" จริงๆ เมื่อเข้าไปทางบันไดด้านหน้าชั้นหนึ่งจะเห็นเตาของคัลซิเฟอร์ ห้องของโซฟี และฉากคลาสสิกอื่นๆ ส่วนชั้นสองมีห้องนอนของฮาวล์ ห้องแต่งตัวของฮาวล์ ห้องทำงานของฮาวล์ และพื้นที่อื่นๆ ทำให้คุณได้เห็นการใช้ชีวิตภายในปราสาท
จุดเด่น ③:ร้านขนมปังจังเกน

ภาพจาก ジブリパーク

ภาพจาก ジブリパーク
ร้านขนมปังจังเกน สร้างด้วยเทคนิคการก่อสร้างแบบครึ่งไม้ตามแบบสถาปัตยกรรมไม้ดั้งเดิมของยุโรป เป็นร้านขนมปังที่กิกิและจิจิแมวดำอาศัยอยู่ ชั้นแรกจำลองฉากเหมือนในอนิเมชั่น มีการตกแต่งด้วยพวงมาลัยขนมปัง และขายขนมปังหลากหลายชนิดเหมือนในเรื่อง ทั้งขนมปังฝรั่งเศสและขนมปังกลม หลังจากทานขนมปังเสร็จแล้ว ยังสามารถเดินผ่านสวนหลังบ้านไปยังห้องใต้หลังคาที่กิกิและจิจินอนได้อีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวในสวนที่ไม่ต้องจองล่วงหน้า
นอกจาก 5 โซนหลักข้างต้นแล้ว ภายในสวนระลึกไอจิเอิร์ธ ยังมีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสตูดิโอจิบลิอีกมากมาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องจองและสามารถเยี่ยมชมได้อย่างอิสระ ตามรายละเอียดด้านล่างเลย
สถานที่ ①:อาคารทรงกลม เนินเขาแห่งสายลม (โรทันดะ คาเซะงะโอกะ)
"อาคารทรงกลม เนินเขาแห่งสายลม" ตั้งอยู่ที่ลานทางเข้าด้านเหนือของสวนจิบลิ มีร้านค้าและร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ สามารถหาซื้อขนมจากทั่วโลก สินค้าจิบลิ และของเล่นสนุกๆ ได้ที่นี่ นอกจากจะมีข้าวปั้นและขนมหวานแล้ว ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากจังหวัดไอจิด้วย บริเวณโดยรอบยังมีร้านสะดวกซื้อ สามารถแวะมาซื้อขนมและเครื่องดื่มที่นี่ก่อนเข้าไปเที่ยวสวนจิบลิได้
สถานที่ ②:Ghibli's Forgotten Items

ภาพจาก ジブリパーク
"ของหลงลืมจากจิบลิ" (Ghibli's Forgotten Items) ตั้งอยู่บนม้านั่งต่างๆภายในสวนสาธารณะที่ระลึกงาน Expo 2005 Aichi ให้ได้เดินชม แวะถ่ายรูป หรือนั่งพักสบายๆตามม้านั่งต่างๆ
สถานที่ ③:Cat's Castle Playground

ภาพจาก ジブリパーク
"เครื่องเล่นปราสาทแมว" ตั้งอยู่ใกล้กับ "หมู่บ้านเวทมนตร์" เป็นเครื่องเล่นที่มีธีมมาจาก "เจ้าแมวยอดนักสืบ" (The Cat Returns) เด็กที่อายุไม่เกินชั้นประถมศึกษาสามารถสนุกกับการเล่นสไลเดอร์ เขาวงกต และเชือกปีนป่ายได้ แม้ว่าในวันธรรมดาจะเปิดให้เล่นฟรี
*แต่ในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (รวมถึงช่วงปิดเทอมยาวของโรงเรียนญี่ปุ่น) จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าใช้บริการ
สถานที่ ④:APM Neko Bus

ภาพจาก ジブリパーク
สาวก "โทโทโร่" ไม่ควรพลาด รถบัสแมว APM ที่ออกแบบตามเนโกะบัสจากการ์ตูนโทโทโร่ เป็นรถรับส่งระหว่างหมู่บ้านเวทมนตร์และป่าด้งโดโกะ โดดเด่นด้วยดวงตากลมโต ฟันขาว และบุคลิกซุกซน แม้ปรากฏในเรื่องไม่มาก แต่เป็นตัวละครสำคัญที่ช่วยพาตัวเอกผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ เพื่อทำความปรารถนาให้เป็นจริง
รถบัสโทโทโร่ APM Neko Bus ได้ถูกสร้างขึ้นจริงแล้ว โดดเด่นด้วย ดีไซน์โค้งมนและหนูน้อย 4 ตัวบนหลังคา ราคา ตั๋วผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน สามารถซื้อได้ที่ เครื่องจำหน่ายตั๋วบริเวณสวนสนุกเมืองแมวและป่าด้งโดโกะ
สถานที่ ⑤:ประตูอินะโรมง

ภาพจาก ジブリパーク
ระหว่างทางจาก "คลังใหญ่จิบลิ" ไปยัง "ป่าด้งโดโกะ" จะได้พบกับ "ประตูอินะโรมง" ซึ่งเป็นประตูที่ย้ายมาและบูรณะใหม่จากร้านอาหารเก่า "อินะโมโตะ" ที่เคยตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่า การออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นทำให้นึกถึง "โรงอาบน้ำอาบุระยะ" ที่ปรากฏในเรื่อง Spirited Away
สถานที่ ⑥:จุดชมวิวหุบเขาแม่มด

ภาพจาก ジブリパーク
"จุดชมวิวหุบเขาแม่มด" มีงานศิลปะ "ปีกแห่งฤดูร้อน" และ "อนุสรณ์ระฆัง" โดยบริเวณนี้ไม่ต้องซื้อตั๋วก็เข้าชมได้ เป็นสถานที่ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของ "หุบเขาแม่มด" ได้ทั้งหมด สามารถเดินไปหรือนั่งกระเช้าไปก็ได้ เช่นเดียวกับ "สวนสนุกเมืองแมว"
*แม้ว่าวันธรรมดาจะเปิดให้ใช้ฟรี แต่วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (รวมถึงช่วงปิดเทอมยาวของโรงเรียนญี่ปุ่น) จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ของฝากที่แนะนำ
ร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดและมีสินค้าหลากหลายที่สุดในสวนจิบลิคือ ร้าน Boken Hikōdan (冒険飛行団) ซึ่งอยู่ในโซน จิบลิแวเฮาส์ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่มีเอกลักษณ์อื่นๆ เช่นบริเวณถนนมินามิ ร้านโมโทโมโท และ ร้านทีมแม่มดทั้ง 13 ด้านล่างนี้เราได้รวบรวมสินค้าที่พลาดไม่ได้ให้ทุกคนแล้ว
สินค้าแนะนำ ① หมวกวิกผมยูบาบะ
อันดับแรกขอแนะนำ "หมวกวิกผมยูบาบะ" ที่กำลังฮิตสุดๆ บนโซเชียลมีเดีย! หมวกทรงวิกผมขนาดใหญ่ ดูน่าเกรงขาม สามารถสวมใส่บนศีรษะเป็นหมวก หรือจะวางบนเก้าอี้เป็นเบาะพิงหลัง หรือแม้แต่วางบนเตียงเป็นหมอนกอดก็ได้ มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลาย เป็นสินค้าที่ทั้งน่ารักและใช้งานได้จริง ไม่แปลกใจเลยที่ได้รับความนิยมขนาดนี้
หมวกวิกผมยูบาบะ
・สถานที่จำหน่าย:ร้าน Boken Hikōdan (冒険飛行団)
・ราคา:7,150 เยน
สินค้าแนะนำ ② ตุ๊กตาหมอนเคาซิเฟอร์
ตุ๊กตาหมอนเคาซิเฟอร์เป็นสินค้าออริจินัลของ "สวนจิบลิ" ที่มีขายเฉพาะที่ร้าน "แม่มดทั้ง 13" ในโซนหุบเขาแม่มดเท่านั้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงมาก แนะนำให้รีบไปต่อคิวที่หุบเขาแม่มดทันทีที่เข้าสวน บางคนถึงกับมาต่อคิวล่วงหน้าก่อนสวนเปิด 1-1.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ตุ๊กตาหมอนเคาซิเฟอร์
・สถานที่จำหน่าย:ร้านแม่มดทั้ง13 (13人の魔女団)
・ราคา:7,480 เยน
สินค้าแนะนำ ③ ถุงผูกปากเคาซิเฟอร์
"ถุงผูกปากเคาซิเฟอร์" เป็นสินค้าจำกัดที่มีขายเฉพาะที่ร้าน "แม่มดทั้ง 13" ในโซนหุบเขาแม่มดเท่านั้น และเป็นสินค้าออริจินัลของสวนสนุก มีให้เลือก 2 สี คือ สีส้มและสีฟ้า เนื่องจากมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน ใครที่อยากได้แนะนำให้รีบพุ่งตรงไปต่อคิวที่ร้านทันทีหลังสวนเปิด
ถุงผูกปากเคาซิเฟอร์
・สถานที่จำหน่าย:ร้านแม่มดทั้ง13 (13人の魔女団)
・ราคา:1,760 เยน
สินค้าแนะนำ ④ ปืนฉีดน้ำโออิโทริซามะจาก Spirited Away

ภาพจาก FASHION PRESS
"ปืนฉีดน้ำโออิโทริซามะพร้อมผ้าเช็ดตัว" จาก Spirited Away โออิโทริซามะที่มีใบหน้าน่ารักๆ ได้กลายเป็นของเล่นอาบน้ำ ที่จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับเวลาอาบน้ำของเด็กๆ ส่วนผ้าเช็ดตัวก็มีให้เลือกหลายสีและลายที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากหรือใช้เองก็ดี
ปืนฉีดน้ำโออิโทริซามะ
・สถานที่จำหน่าย:ร้าน Boken Hikōdan (冒険飛行団)
・ราคา:1,980 เยน
ร้านอาหารในสวนสนุกจิบลิและเมนูแนะนำ
ภายในสวนสนุกมีร้านอาหารทั้งหมด 5 ร้าน ได้แก่ "Transcontinental Flight Café" และ "Milk Stand Siberia❆An" ในโซน Ghibli Warehouse และยังมี "Flying Oven" และ "Hot Dog Stand Hot Tin Roof" ในโซน Witch Valley รวมถึง "Round Building Hill of the Wind" ในพื้นที่สวน รายละเอียดตามด้านล่างนี้เลย
ร้าน ① Transcontinental Flight Café

ภาพจาก ジブリパーク
Transcontinental Flight Café ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารที่นักบินเที่ยวบินระยะไกลสามารถรับประทานได้ด้วยมือเดียวขณะขับเครื่องบิน เมนูหลักๆ ประกอบด้วย แซนด์วิช พิซซ่า และเจลาโต้สไตล์อิตาเลียน นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มอย่างเบียร์ ไวน์แดงและไวน์ขาว ที่นี่ยังสามารถหาซื้อ "ขนมปังเมล่อนไส้ครีม" สุดน่ารักจากเรื่อง "เด็กชายกับนกกระสา" ได้อีกด้วย!

ภาพจาก ジブリパーク

ภาพจาก ジブリパーク

ภาพจาก ジブリパーク
ล่าสุดยังมีพิซซ่ารสชาติใหม่ "พิซซ่ารสสลัดโคโรเนชั่น" ที่ได้แรงบันดาลใจจากสลัดคลาสสิกของอังกฤษ "สลัดไก่โคโรเนชั่น" ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และ "พิซซ่าชีส 6 ชนิด" ที่ผสมผสานชีสหลากหลายรสชาติกับมะนาวเป็นรสชาติที่เหมาะกับหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่ง

ภาพจาก 株式会社ジブリパーク、© Studio Ghibli
Transcontinental Flight Café (大陸横断飛行)
・เวลาทำการ:【วันธรรมดา】11:00-17:00 น.【เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์】10:30-17:00 น. (L.O. 16:30 น.)
・เว็บไซต์หลัก
ร้าน ② Milk Stand Siberi❆An
เค้กซิเบเรียที่ร้าน Milk Stand Siberi❆An คือขนมโบราณยุคเมจิและทะอิโชที่โด่งดังจากภาพยนตร์ The Wind Rises ของมิยาซากิ เป็นเค้กนางาซากิสอดไส้โยกังรสชาติละมุน แม้จะหาทานยากขึ้นเพราะกรรมวิธีผลิตที่ซับซ้อน แต่หลังจากปรากฏในภาพยนตร์ ยอดขายก็พุ่งสูงขึ้นเป็นสองเท่า ทำให้ช่างฝีมือมุ่งมั่นสืบสานตำนานความอร่อยนี้ต่อไป

ขนมปังถั่วแดง อีกหนึ่งสินค้าที่วางจำหน่าย
ภาพจาก 株式会社ジブリパーク、© Studio Ghibli
นอกจากนี้ยังมี "ขนมปังถั่วแดง" ทานคู่กับนมให้เลือกด้วย ใช้ทั้งถั่วแดงบดละเอียดและถั่วแดงบดหยาบ ให้คุณได้สัมผัสความรู้สึกยอดเยี่ยมของครีมถั่วแดงนุ่มๆละลายในปาก พร้อมกับความรู้สึกของเม็ดถั่วแดง ทำให้มีรสสัมผัสที่หลากหลาย
Milk Stand Siberi❆An
・เวลาทำการ:ตั้งแต่เปิดสวนจนกระทั่งสินค้าขายหมด
ร้าน ③ Flying OVEN

ภาพจาก ジブリパーク
ร้าน Flying OVEN ตั้งอยู่ริมสระดอกกุหลาบพันปีที่ทางเข้า "หุบเขาแม่มด" นอกจากอาหารอบแสนอร่อยแบบยุโรปที่หลากหลาย เช่น พายและคิชแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารและขนมหวาน ที่ได้แรงบันดาลใจจากองค์ประกอบลึกลับของแม่มด "คาเอรุยากิ" (ขนมรูปกบ) ที่ได้รับความนิยมก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยแล้ว คุณยังสามารถขึ้นบันไดจากด้านข้างร้านไปยังสวนบนดาดฟ้า เพื่อชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของพื้นที่โดยรอบได้อีกด้วย

ภาพจาก ジブリパーク

ภาพจาก ジブリパーク

ภาพจาก ジブリパーク
Flying OVEN
・เวลาทำการ:【วันธรรมดา】11:00-17:00 น.【เสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์】09:30-17:00 น.
・เว็บไซต์หลัก
ร้าน ④ Hotdog Stand "Hot Tin Roof"
Hotdog Stand "Hot Tin Roof" โดดเด่นด้วยป้ายนีออนรูปแมวกระโดดที่สะดุดตา เป็นร้านขายฮอตด็อกที่มีเมนูพิเศษอย่าง "ฮอตด็อกรูปอุ้งเท้าแมว" ซึ่งเป็นขนมปังรูปอุ้งเท้าแมวสอดไส้ไส้กรอกฉ่ำๆ นอกจากนี้ยังมีเฟรนช์ฟรายทอด เบียร์หุบเขาแม่มด และเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้เลือก

ฮอตด็อกรูปอุ้งเท้าแมว(ดำ/ขาว) 990 เยน
ภาพจาก ジブリパーク
Hotdog Stand "Hot Tin Roof"
・เวลาทำการ:10:00-16:30 น.
・เว็บไซต์หลัก
ร้าน ⑤ Rotunda Kazegaoka

ภาพจาก ジブリパーク

เซ็ตข้าวปั้น (พร้อมซุปมิโซะหมู) 930 เยน
ภาพจาก ジブリパーク
Rotunda Kazegaoka ร้านบุฟเฟ่ต์ข้าวปั้นสไตล์ญี่ปุ่นและฟิวชั่น พร้อมเมนูข้าวหน้าหมูซอสมิโสะ มีให้เลือกหลากหลายรสชาติทั้งแบบดั้งเดิมและแนวใหม่ สามารถซื้อกลับไปทานในสวนจิบลิได้
Rotunda Kazegaoka
・เวลาทำการ:10:00-18:00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 17:30 น.)
・เว็บไซต์หลัก
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของจิบลิ หรือเพียงแค่เคยดูผลงานของสตูดิโอจิบลิมาบ้าง หากมีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดไอจิแล้วละก็ ไม่ควรพลาด Ghibli Park ที่นาโกย่า ! มาร่วมผจญภัยในโลกกว้างใหญ่ของจิบลิ สำรวจแรงบันดาลใจเบื้องหลังผลงานคลาสสิก และสวมบทบาทเป็นตัวละครเอกในฉากสุดประทับใจที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นรัวกัน!