สำหรับครอบครัวที่มาเที่ยวนาโกย่า สวนสนุกคือสถานที่ที่ต้องไป ! นาโกย่าไม่ได้มีแค่ Ghibli Park เท่านั้น แต่ยังมีสถานที่แห่งความสนุกที่รอคุณอยู่อีกมากมาย วันนี้ !JapaiJAPAN ขอแนะนำสวนสนุกที่ห้ามพลาดในนาโกย่า ทั้ง Ghibli Park , LEGOLAND , Laguna Ten Bosch , Maker's Pier และ พิพิธภัณฑ์รถไฟ JR ให้เลือกเที่ยวกันได้แบบจุใจ!

วิธีการเดินทางไปสวนสนุกทั้ง 5 แห่ง
วิธีการเดินทางจาก สถานีนาโกย่า ไปยังสวนสนุกทั้ง 5 แห่ง ง่าย ๆ เลยคือ หากต้องการไป LEGOLAND , Maker's Pier และ พิพิธภัณฑ์รถไฟ JR ให้เดินทางโดยรถไฟสาย Aonami ไปยังสถานีปลายทาง Kinjo Futo เมื่อออกจากสถานีเดินต่อประมาณ 5 นาที ก็จะถึงแต่ละสวนสนุก ใช้เวลาเดินทางรวม ๆ จากสถานีนาโกย่า ประมาณ 30 นาที
ส่วน Ghibli Park ให้นั่ง รถไฟสาย Higashiyama ไปยังสถานี Fujigaoka ต่อรถไฟ Linimo (สาย Tobu Kyuryo Line) ไปลงที่สถานี Ai-Chikyuhaku Kinen Koen หรือจะนั่งรถบัสด่วนพิเศษจากศูนย์รถบัส Meitetsu (ใกล้สถานีนาโกย่า) ตรงไปยังสถานี Ai-Chikyuhaku Kinen Koen ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ส่วนใครที่ต้องการไป Laguna Ten Bosch ให้นั่งรถไฟสาย Tokaido ไปยังสถานี Gamagori ต่อรถบัสรับ-ส่งฟรีของสวนสนุกใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 1 ชั่วโมงเช่นกัน ดูภาพเพิ่มเติมจากแผนที่ด้านล่าง

แนะนำ 5 สวนสนุกธีมปาร์คยอดนิยม
① ย้อนวัยเด็กไปกับสวนสนุกจิบลิ「Ghibli Park」ทั้ง 5 โซน

สวนสนุกจิบลิ (Ghibli Park) ประกอบด้วย 5 โซน ได้แก่ จิบลิแวร์เฮ้าส์ (Ghibli's Grand Warehouse) , เนินเขาแห่งวัยเยาว์ (Youth Hill) , ป่าด้งโดโกะ (Dondoko Forest) , หมู่บ้านเวทมนตร์ (Mononoke Village) และ หุบเขาแม่มด (Valley of Witches) ภายในพื้นที่ได้จำลองฉากต่างๆ จากภาพยนตร์แอนิเมชันจิบลิมาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทเคลื่อนที่ของฮาวล์สูง 15 กว่าเมตร ห้องทำงานของยูบาบา นอกจากนี้ในโซนบ้านเกิดแห่งเวทมนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องเจ้าหญิงโมโนโนเกะ ยังสามารถลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของจังหวัดไอจิอย่าง โกเฮโมจิ ที่ย่างด้วยถ่านแบบสดๆ ได้อีกด้วย !หากมีแพลนมานาโกย่า อย่าลืมติดตามและไม่พลาดที่จะดื่มด่ำไปกับโลกแฟนตาซีของแอนิเมชันจิบลิกัน
โซน 1:จิบลิแวร์ เฮ้าส์ (Ghibli's Grand Warehouse)
ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่จิบลิแวร์ เฮ้าส์ (Ghibli's Grand Warehouse) ก่อนเป็นอันดับแรกหากเข้ามาที่นี่ ที่นี่ไม่เพียงจัดแสดงภาพร่างต้นฉบับของอนิเมชั่นของจิบลิเท่านั้น แต่ยังสร้างฉากต่างๆได้อย่างสมจริง มีโมเดลขนาดเท่าของจริงและเอฟเฟกต์แสงเสียง ถือเป็นโซนถ่ายรูปเช็คอินที่ห้ามพลาด ! นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึก ที่วางจำหน่ายไอเทมพิเศษที่มีขายเฉพาะที่ปาร์คเท่านั้น ก็แวะมาดูได้ในโซนนี้เลย
โซน 2: เนินเขาแห่งวัยเยาว์ (Youth Hill)
เนินเขาแห่งวัยเยาว์ (Youth Hill) เป็นโซนที่สร้างขึ้นตามธีมของภาพยนตร์สองเรื่องคือ Whisper of the Heart และ The Cat Returns ที่นี่มีร้านของเก่าลึกลับ Earth Shop ฉากในเรื่อง Whisper of the Heart ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระเอกนางเอกได้พบกัน นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นแมวบารอนที่ทำจากเซรามิก เมื่อมองเข้าไปในดวงตาจะรู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงดูดเข้าไป อีกส่วนหนึ่งจุดเช็คอินคือ สำนักงานแมว จากเรื่อง The Cat Returns ที่บารอนแมวกำลังประชุมกับเพื่อนอ้วนของเขา มาดูกันว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในอาณาจักรแมวแฟนตาซีแห่งนี้

Earth Shop ฉากจาก《Whisper of the Heart》
©Studio Ghibli/ภาพจาก FASHION PRESS

สำนักงานแมวจาก《The Cat Returns》
©Studio Ghibli/ภาพจาก FASHION PRESS
โซน 3:ป่าด้งโดโกะ (Dondoko Forest)

เข้ามาถึงโซนป่าด้งโดโกะ ก็พบกับโทโทโร่ขนาดยักษ์ที่เด็กๆ ต้องตื่นเต้น มีบันไดเล็กๆใต้ตัวโทโทโร่ สำหรับเด็กเข้าไปได้เท่านั้น และในบริเวณยังมีร้านค้าเล็กๆ ขายเครื่องรางนำโชคลิมิเต็ด โมเดลโทโทโร่ และของที่ระลึกพิเศษสำหรับแฟนโทโทโร่โดยเฉพาะ ถือเป็นอีกหนึ่งโซนที่แฟนๆโทโทโร่ไม่ควรพลาด
โซน 4:หมู่บ้านเวทมนตร์ (Mononoke Village)
หมู่บ้านเวทมนตร์ สร้างขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง เจ้าหญิงแห่งพงไพร (Princess Mononoke) โดยได้สร้างฉากอันโดดเด่นอย่าง ปราสาทตาตารา (Tatara Castle) ที่ในเรื่องตั้งอยู่กลางหุบเขาลึก ออกแบบตามสถาปัตยกรรมบ้านมุงหลังคาจากโบราณของญี่ปุ่น โดยใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และหญ้ามุงหลังคา สร้างบรรยากาศลึกลับห่างไกลผู้คน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นสไลเดอร์ที่ออกแบบตามตัวละคร Okkoto ผู้อาวุโสร้อยปีจากเผ่าหมูป่า และยังมีรูปปั้นเทพเจ้าของวิญญาณชั่วร้าย Demon God ภายในปราสาทตาตาราอีกด้วย นอจากนี้ยังสามารถร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปต่างๆ รวมถึงการทำขนมโกะเฮอิโมจิ (Gohei Mochi) ด้วยตัวเอง เมื่อเดินเล่นใน หมู่บ้านเวทมนตร์ จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของ เจ้าหญิงแห่งพงไพร อย่างแน่นอน

休息處內可以買原創商品和點心、飲料
©Studio Ghibli/ภาพจาก FASHION PRESS

近距離觀賞邪魔神雕像
©Studio Ghibli/ภาพจาก FASHION PRESS

體驗五平餅 DIY (需現場另外付費參加)
©Studio Ghibli/ภาพจาก FASHION PRESS

小桑的狼皮頭飾、乙事主和邪魔神娃娃都有售
©Studio Ghibli/ภาพจาก FASHION PRESS
โซน 5:หุบเขาแม่มด (Valley of Witches)

©Studio Ghibli/ภาพจาก 愛知県
โซนหุบเขาแม่มด นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 16 มีนาคม 2024 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากอนิเมะชื่อดังหลายเรื่อง ได้แก่ Kiki's Delivery Service แม่มดน้อยกิกิ , Howl's Moving Castle ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ และ Earwig and the Witch อาย่ากับแม่มด เรียกได้ว่าจำลองบรรยากาศสไตล์ตะวันตกในยุคไทโชและโชวะมาไว้ที่นี่ มีทั้งร้านขนมปังของกิกิ ห้องนอนของกิกิ และ ยังมีคาเฟ่เวทมนตร์สมุนไพรที่จำลองมาจากห้องปรุงยาของแม่กิกิ นอกจากนี้ยังมีการสร้างปราสาทเคลื่อนที่ของฮาวล์ขนาดเท่าจริง และร้านหมวก Hatter ที่โซฟีเคยทำงานในช่วงแรก เมื่อสาวๆ ได้ก้าวเข้ามาในโซนนี้จะรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ตื่นเต้น เหมือนครั้งแรกที่ได้พบกับฮาวล์ ราวกับจมดิ่งอยู่ในความทรงจำอันแสนงดงาม

บ้านในโซน หุบเขาแม่มด
©Studio Ghibli/圖片來源:愛知県

ร้านขายหมวก
©Studio Ghibli/圖片來源:愛知県

ร้านเบเกอรี่
©Studio Ghibli/圖片來源:愛知県

โอชิโน แมนชั่น
©Studio Ghibli/圖片來源:愛知県
ทริกในการซื้อบัตรเข้าปาร์ค บัตรเข้าชมสวนสนุกจิบลิบางส่วนจะเริ่มเปิดจำหน่ายใน เวลา 14:00 น. ของวันที่ 10 ก่อนเดือนที่จะเข้าชมถึง 2 เดือน (เช่น บัตรเข้าชมเดือนสิงหาคมจะเริ่มเปิดให้จองในวันที่ 10 มิถุนายน เวลา 14:00 น.) แนะนำให้นักท่องเที่ยวที่สนใจจองล่วงหน้า สำหรับรายละเอียดการซื้อบัตร สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ทางการของสวนสนุกจิบลิ
GHIBLI PARK
・ที่ตั้ง:ที่ตั้ง:1533-1 อิบาระ ฮุยไม เมืองนากาคุเตะ จังหวัดไอจิ
・เวลาทำการ:วันธรรมดา 10:00-17:00 น. เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 09:00-17:00 น.
・วันหยุด:ทุกวันอังคาร วันหยุดสิ้นปี และ ปีใหม่ และ 18 มิ.ย. - 25 มิ.ย 2024 , 2 ธ.ค. - 13 ธ.ค. 2024)
【ค่าธรรมเนียม】:
・ GHIBLI PARK ทั้ง 5 โซน:
ผู้ใหญ่ 3,500 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถมศึกษา) 1,750 เยน ในวันธรรมดา วันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 4,000 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถม) 2,000 เยน
・ GHIBLI PARK ทั้ง 5 โซน Premium:
ผู้ใหญ่ 7,300 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถมศึกษา) 3,650 เยน ในวันธรรมดา วันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 7,800 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถม) 3,900 เยน
・ แพ็คเกจเดินชม 4 โซน (Youth Hill , Dondoko Forest , Mononoke Village , Valley of Witches):
ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถมศึกษา) 750 เยน ในวันธรรมดา วันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถม) 1,000 เยน
・ แพ็คเกจเดินชม Mononoke Village + Valley of Witches:
ผู้ใหญ่ 3,300 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถมศึกษา) 1,650 เยน ในวันธรรมดา วันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ 3,800 เยน เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงนักเรียนชั้นประถม) 1,900 เยน
☞ เว็บไซต์สำหรับซื้อตั๋ว
☞ ตั๋วเข้าชม พร้อมจองโรงแรมกับ JTB
☞ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
☞ ทวิตเตอร์ (X)
② LEGOLAND ที่ที่ความคิดสร้างสรรค์และความฝันไม่มีขีดจำกัด !
เลโก้คงเป็นความทรงจำในวัยเด็กของหลายๆ คน หลายๆ คนอาจรู้สึกภูมิใจกับการต่อเลโก้ หรือตัวการ์ตูนเลโก้สีเหลืองที่จดจำได้ไม่ลืมแม้โตเป็นผู้ใหญ่ ถ้าหากเป็นแฟนเลโก้ตัวจริงล่ะก็ แนะนำ LEGOLAND ที่นาโกย่าเลย!
8 โซนหลักใน เลโก้แลนด์ LEGOLAND ที่จะพาคุณเข้าสู่โลกมหัศจรรย์ของเลโก้ !
แม้ว่า เลโก้แลนด์ นาโกย่าจะมีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก แต่มีเครื่องเล่นและกิจกรรมหลากหลาย แบ่งออกเป็น 8 โซนตามธีมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Factory (โรงงาน) , Bricktopia (โลกบล็อกเลโก้) , Adventure (การผจญภัย) , Knight's Kingdom (อาณาจักรอัศวิน) , Pirate Shores (ชายฝั่งโจรสลัด) , Miniland (เมืองจำลองขนาดเล็ก) , LEGO City (เมืองเลโก้) และ LEGO Ninjago World (โลกนินจาโก)
โซน Factory (โรงงาน) อยู่ใกล้ทางเข้ามากที่สุด มีล็อคเกอร์ฝากของและบริการให้เช่ารถเข็นเด็ก นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารให้นั่งพักคลายหิว ในโซนจะมีทัวร์โรงงาน และ ร้านขายของที่ระลึก โดยเฉพาะร้าน The Big Shop ที่นักสะสมเลโก้รุ่นลิมิเต็ดต้องแวะมาเช็ค !
เดินเข้าไปในสวนสนุกอีกนิดจะพบกับโซน Bricktopia (โลกบล็อกเลโก้) ไฮไลต์คือหอคอยเลโก้สูง 50 เมตรตรงกลางลาน สามารถชมวิวทั่วสวนสนุกและบริเวณโดยรอบได้ ข้างๆ มีโรงละครการแสดง และ ร้านขายชิ้นส่วนเลโก้ มีชิ้นส่วนเลโก้หลากสีสันและเกมแบบอินเตอร์แอคทีฟมากมาย ให้ผู้เข้าชมได้ปลดปล่อยจินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด
โซน Adventure (ผจญภัย) สร้างเป็นธีมทะเลทราย พีระมิด คาวบอยตะวันตก และการสำรวจใต้ทะเล สร้างบรรยากาศลึกลับแต่ยังคงความน่ารักสไตล์เลโก้ ไม่ว่าจะเป็นการดำดิ่งสำรวจซากโบราณใต้ทะเล หรือใช้ปืนเลเซอร์ผจญภัยในโบราณสถานเพื่อค้นหาสมบัติ ทุกอย่างจะตอบโจทย์ความอยากรู้อยากเห็นในการผจญภัยของคุณ
โซน Knight's Kingdom (อาณาจักรอัศวิน) เป็นปราสาทขนาดกะทัดรัด ที่มีทหารยามเฝ้าประตูเมืองนอนหลับครอกอยู่ ! ภายในมีร้านค้า และ ร้านอาหาร มีเครื่องเล่นที่เน้นความเร็วรวมอยู่ที่นี่ รวมถึงรถไฟเหาะและรถไฟรางสำหรับเด็กเล็ก แม้แต่ที่นั่งก็ยังสร้างจากเลโก้อย่างพิถีพิถัน !
โซน Pirate Shores (ชายฝั่งโจรสลัด) เป็นโซนธีมโจรสลัด มีเรือโจรสลัดที่โยกไปมาซ้ายขวาให้สัมผัสความรู้สึกฝ่าคลื่นลม และ ความตื่นเต้น ภายในโซนนี้ยังสามารถนั่งเรือเล็กออกผจญภัย และใช้ปืนฉีดน้ำโจมตีกันได้
โซน Miniland (สวนจำลอง) อยากเที่ยวโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นาโกย่า และฮิโรชิมาภายในวันเดียวไหม ? ที่นี่เลย ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังจำลองที่สร้างจากเลโก้กว่า 10 ล้านชิ้น เช่น โดทงโบริในโอซาก้า โอไดบะในโตเกียว วัดเซนโซจิ ปราสาทนาโกย่า และศาลเจ้าคาโกชิมะ เรียกได้ว่าเหมือนได้เที่ยวญี่ปุ่นครบในวันเดียว !
ส่วน LEGO City (เมืองเลโก้) ได้รวบรวมองค์ประกอบต่างๆ ในชีวิตประจำวันรอบตัวเราไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวที่รายงานข่างข้างถนน ตำรวจที่กำลังเขียนใบสั่ง และยังมีฉากช่างภาพปาปารัซซี่ที่กำลังถ่ายรูปดาราอีกด้วย ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือโรงภาพยนตร์ Palace Cinema 4D ที่มาพร้อมเอฟเฟกต์แสงเสียง ลม และฝน ให้ความรู้สึกสมจริง ไม่มาลองไม่ได้แล้ว
ออกมาจาก LEGOLAND แวะมาเยี่ยมชม Sea Life สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตในทะเลกัน
Sea Life ตั้งอยู่ติดกับ LEGOLAND เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดกะทัดรัดที่รวมประสบการณ์หลากหลายทั้งการชม การมีส่วนร่วม และการเรียนรู้ ที่ชั้น 1 ของ Sea Life มีอุโมงค์แก้วสวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษมากมายที่เหมาะสำหรับการถ่ายรูป โลกใต้ทะเลมักจะเต็มไปด้วยความลึกลับและสีสันที่น่าค้นหา หลังจากเที่ยว LEGOLAND แล้ว ถ้ามีเวลาก็รีบมาสำรวจความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลกันเถอะ !

ภาพจาก Sea Life

ภาพจาก Sea Life
LEGOLAND JAPAN HOTEL

ภาพจาก LEGOLAND HOTEL
นอกจากนี้แล้ว LEGOLAND ยังมีโรงแรม LEGOLAND JAPAN HOTEL ที่ออกแบบห้องพักเลโก้หลากหลายธีม ทั้งโจรสลัด ผจญภัย อาณาจักร นินจา และ เพื่อน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน ทุกสิ่งอำนวยความสะดวกและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเลโก้ แฟนเลโก้ต้องหลงรักอย่างแน่นอน ! หลังจากเที่ยวเล่นทั้งวัน ลองมาเข้านอนท่ามกลางบรรยากาศเลโก้ดูสิ!

ภาพจาก LEGOLAND HOTEL

ภาพจาก LEGOLAND HOTEL
LEGOLAND
・ที่ตั้ง:2-2-1 Kinjo-futo, Minato, Nagoya ,Aichi
・เวลาทำการ:10:00~17:00 น. (หรือ 18:00) วันหยุดไม่แน่นอน
・เว็บไซต์:LEGOLAND
③ เทศกาลไฟประดับฤดูหนาว Light of Life ที่ Laguna Ten Bosch

การแสดงไฟประดับอันตระการตา Light of Life ทั้งบนบก ในน้ำ และบนฟ้า
Laguna Ten Bosch ตั้งอยู่ในเมืองกามาโกริ จังหวัดไอจิ จะจัดงานเทศกาลไฟประดับฤดูหนาว Light of Life ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2023 ถึง 7 เมษายน 2024 ตามชื่องาน เทศกาลนี้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ "ทะเล" "พื้นดิน" และ "ท้องฟ้า" นำเสนอการแสดงแสงสีที่สวยงามและอบอุ่นใจให้กับผู้เข้าชมทุกคน ที่นี่คุณจะได้ชมการฉายภาพ 3D mapping การแสดงบนเวที การแสดงดอกไม้ไฟ และการแสดงอื่นๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกเหมือนได้เดินทางเที่ยวต่างประเทศ

ต้นไม้แห่งชีวิตส่องสว่างบนท้องฟ้ายามค่ำคืนราวกับเดินบนก้อนเมฆ
ภาพจาก LAGUNA TEN BOSCH

เดินผ่านพระราชวังสีน้ำเงินและเข้าสู่โลกแฟนตาซี
ภาพจาก LAGUNA TEN BOSCH
โซนท้องฟ้า มีการประดับไฟที่จำลองทะเลเมฆและแสงเหนือ ไฮไลต์สำคัญคือ Tree in the Sky - แสงแห่งชีวิตที่พำนักอยู่บนฟ้า ซึ่งมีต้นไม้เงินสูงถึง 10 เมตรเปล่งประกายแสงอันงดงาม บนสนามหญ้ารอบๆ ต้นไม้ประดับด้วยไฟหลากสีสัน สร้างบรรยากาศลึกลับโรแมนติก ราวกับอยู่ท่ามกลางทะเลเมฆและแสงเหนือ นอกจากนี้ยังมี ซุ้มประตูรุ้งแห่งโชคลาภ 12 ซุ้มที่ประดับด้วยไฟมากกว่า 100 ดวง และ พระราชวังสีฟ้า ที่เปล่งประกายสีฟ้าสดใส เอฟเฟกต์แสงไฟอันยิ่งใหญ่นี้จะประทับใจไปตลอดชีวิต

โคมไฟหลากสีสันที่มีรูปร่างคล้ายสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ
ภาพจาก LAGUNA TEN BOSCH

ขี่ม้าหมุนและเพลิดเพลินไปกับค่ำคืนที่พร่างพราย
ภาพจาก LAGUNA TEN BOSCH
Sea of the World - แสงแห่งชีวิตที่กำเนิดจากทะเล อยู่ในโซนกลาง ล้อมรอบด้วยสระว่ายน้ำฤดูร้อน แม่น้ำอูโรโบรอส ภายใต้การตกแต่งเหมือนอยู่ในถนนโคมไฟใต้ทะเล นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปกับโคมไฟได้อย่างใกล้ชิด แนะนำให้มาถ่ายรูปสวยๆในโซนนี้เลย

มาดูกันว่ามีอะไรอยู่ใน Mimic
ภาพจาก LAGUNA TEN BOSCH

กระบอกน้ำและถังป๊อปคอร์นลายพิเศษ
ภาพจาก LAGUNA TEN BOSCH
ห้องพักธีม Frieren เปิดให้จองแล้ว ! พร้อมตัวละครหลัก ในห้อง

ภาพจาก LEGOLAND HOTEL
สำหรับคนที่อยากสนุกทั้งวัน และพักค้างคืนแบบเต็มอิ่ม แนะนำแพ็คเกจที่พักที่รวมตั๋วเข้าสวน Laguna Ten ไว้ สามารถทานอาหารเช้าวันถัดไปและทำกิจกรรมสะสมแสตมป์ได้อย่างสบายๆ จองห้องพักพิเศษนี้สามารถเลือกสแตนดี้ตัวละคร 1 ตัวจาก 3 ตัวละคร (Frieren, Fern, Stark) มาอยู่เป็นเพื่อน และมีพรมต้อนรับประดับด้วยลายตัวละคร และมีสแตนดี้ขนาดเล็กเรียงรายข้างเตียง แฟนๆ สามารถมาพักผ่อนยามค่ำคืนกับเหล่าตัวละครเอกจาก Frieren ที่รักได้
・เว็บไซต์ :จองได้ที่นี่เลย
LAGUNA TEN BOSCH
・ที่ตั้ง:2-3 Kaiyocho, Gamagori , Aichi
・เว็บไซต์:LAGUNA TEN BOSCH
④ Maker's Pier ศูนย์รวมงานคราฟต์และความคิดสร้างสรรค์

ภาพจาก Maker's Pier
Maker's Pier เป็นศูนย์รวมงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เพียงแต่สินค้าน่ารัก ๆ ขาย แต่ยังมีเวิร์คชอป DIY ให้ร่วมสนุกมากมาย เช่น การปักเสื้อผ้า ทำเครื่องประดับแก้ว ทำเครื่องหนังชิ้นเล็กๆ หากอยากเรียนรู้วิธีการทำ ลองมาที่นี่เลย Maker's Pier เหมาะสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่จะมาร่วมสนุกด้วยกัน ภายในศูนย์ยังมีร้านค้าที่มีสีสันสดใส ถนนเต็มไปด้วยร้านขายของใช้ในชีวิตประจำวันและของแต่งบ้านน่ารักๆ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวมีความสุขเดินเล่นเพลินได้ทั้งวัน
นอกจากประสบการณ์งานหัตถกรรมแล้ว ที่ Maker's Pier ยังมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย เนื่องจากอยู่ใกล้กับ LEGO LAND ที่นี่ก็มีผลิตภัณฑ์รุ่นลิมิเต็ดเกี่ยวกับ LEGO วางขายเช่นกัน ได้ทั้งทำกิจกรรมสนุกๆ ช้อปปิ้ง และ ทานของอร่อย Maker's Pier Creative Complex น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหากมาเที่ยวนาโกย่า
Maker's Pier
・ที่ตั้ง:7-1, Kinchō Head 2-chome, Minato-ku, Nagoya , Aichi
・เวลาทำการ:แต่ละร้านเปิดปิดไม่เหมือนกัน โปรดดูรายละเอียดที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
・เว็บไซต์:Maker's Pier
⑤ พิพิธภัณฑ์รถไฟ JR (Linear Railway Museum) น่าตื่นเต้นและสร้างความประทับใจสำหรับคนรักรถไฟ

ในญี่ปุ่น มีผู้คนประมาณ 10-20 ล้านคนที่ใช้รถไฟในการเดินทางไปทำงานและเรียนทุกวัน จึงกล่าวได้ว่าชีวิตประจำวันของผู้คนมากมายผูกพันกับรถไฟอย่างแยกไม่ออก รถไฟแต่ละขบวนมีเรื่องราวที่น่าหลงใหลทั้งในแง่การออกแบบภายนอก ระบบขับเคลื่อน รวมถึงประวัติศาสตร์และยุคสมัยที่อยู่เบื้องหลัง นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนมากมายหลงใหลในรถไฟก็เป็นได้


พิพิธภัณฑ์รถไฟ JR จัดแสดงรถไฟตั้งแต่รถจักรไอน้ำยุคเก่า จนถึงรถไฟไฟฟ้าสมัยใหม่และรถไฟชินคันเซ็น รวมถึงรถไฟพิเศษที่ได้แค่ชมแต่ไม่สามารถนั่งได้ อย่างรถไฟตรวจสอบทางที่เรียกว่า Doctor Yellow มีรถไฟแต่ละขบวนบรรจุความฝันและความทรงจำของผู้คนในแต่ละยุคสมัย รับรองคนรักรถไฟต้องถูกใจอย่างแน่นอน

ภาพจาก リニア・鉄道館
ภายในพิพิธภัณฑ์มีห้องขับรถไฟชินคันเซ็นรุ่น N700 จำลองขนาดเท่าของจริง ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับรถไฟผ่านจอภาพขนาดใหญ่ สำหรับผู้ที่อยากทดลองขับรถไฟชินคันเซ็น สามารถซื้อตั๋วเพิ่มได้ในราคา 500 เยน เท่านั้น
พิพิธภัณฑ์รถไฟ JR (Linear Railway Museum)
・ที่ตั้ง:Kinchō Head, Minato-ku, Nagoya , Aichi
・เวลาทำการ:10:00~17:30 น.( เข้าชมก่อน 17:00 น.)
・วันหยุด:ทุกวันอังคาร (ปิดวันถัดไปหากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) 28/12~1/1 และอาจเปิดตามปกติในช่วงโกลเด้นวีค เทศกาล อื่นๆ ฯลฯ
・เครื่องบรรยายออดิโอไกด์:ออดิโอไกด์ฟรีให้บริการเป็นภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน เกาหลี ฝรั่งเศส และภาษาอื่นๆ
・เว็บไซต์:リニア・鉄道館
สวนสนุกในนาโกย่าทั้ง จิบลิปาร์ค เลโก้แลนด์ Maker's Pier ลากูน่า เท็นโบสึ และพิพิธภัณฑ์รถไฟ JR เป็นจุดหมายที่เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว พร้อมเสิร์ฟทั้งความสนุก อาหารอร่อย และกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย เตรียมวางแผนทริปนาโกย่าครั้งต่อไปกับสวนสนุกสุดฮิตเหล่านี้ได้เลย
☞ บทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
・แฟนจิบลิต้องอ่าน! วิธีซื้อบัตร 'Ghibli Park' แนะนำ 4 ช่องทางจองง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
・Ghibli Park ที่นาโกย่าเปิดแล้ว ! มาดูรายละเอียด เวลาเปิดปิด ราคาตั๋ว แผนที่ และ ภาพในปาร์คและพบกับโทโทโร่กันเถอะ !
・ที่เที่ยวนาโกย่า 2025 ครบจบในที่เดียว! แหล่งท่องเที่ยว ที่พัก อาหาร ชอปปิ้ง [อัพเดตล่าสุด]